วีดิโอธรรม5

จะมีจะรู้ทำไม ให้เป็นทุกข์   ลองเปิดใจมาดูความจริงตนเอง  จะมีจะรู้ทำไมให้เป็นทุกข์  กับสมมุติภาษาที่ว่า  นิพพานคือจิตวิญญาณ  "นิพพาน"  ที่มีที่รู้  จึงมีเรื่องราวตามภาษา  นิพพานเป็นความเข้าใจของคนทั่วโลกที่เข้าใจ  นิพพานจึงเปรียบเสมือนสิ่งลี้ลับซับซ้อน  เป็นเหมือนดินแดนที่เป็นอมตะ  จึงเป็นสิ่งท้าทายของคนบนโลกที่อยากได้เข้าไปสัมผัส  เข้าไปสู่ในดินแดนนิพพาน  คำสมมุติภาษาที่มีตามมาว่า  "จิตวิญญาณ"  จึงถูกนำมาใช้แทนความรู้สึกของคนทั้งโลก  เพื่อการค้นหา  เพื่อการเข้าถึง  "ดินแดนนิพพาน"  ที่เหมือนมีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาปกครองอยู่  การบอกเล่า  สื่อสาร  สืบทอดกันมาอย่างยาวนานที่ว่า  ในดินแดนนิพพานแห่งนี้  ไม่มีความทุกข์  มีแต่ความสุข  ที่อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งมีความสงบร่มเย็นเป็นถาวรแก่ผู้ที่ได้เข้าถึง  สมมุติฐานของคนทั้งโลกที่ตั้งขึ้นเอง  เพื่อใช้สื่อสารร่วมกันกับคำว่านิพพานนิพพานที่สมมุติให้มีขึ้นมาในใจของคนทั้งโลก  จิตวิญญาณก็สมมุติภาษาให้มีตามมา  เพื่อนำมาช่วยค้นหา  นิพพาน  คนทุกคนจึงหลงติดกับสมมุติที่อยากจะเข้าไปในดินแดนตรงนี้  ขอให้ทุกคนโชคดี  ที่ได้พบเพียง  นิพพานตามสมมุติ  เท่านั้น


...โชคดี...%

เมื่อธรรมหายไป จึงพบอิสระ  คำสอนทั้งหลายที่ท่านยังหลงใหล  ยึดถือเชื่อมั่นจนคิดเอาเองว่า  ธรรม  หรือธรรมะมีอยู่จริงๆ  สิ่งที่มี  และสิ่งที่รู้กับคำสอนนั้น  จะเป็นเครื่องผูกรัดตัวเอง  แต่ทุกขณะของความจริง  ที่รู้กลับไม่มีคำอธิบาย  ท่านเห็นได้เท่าทันเพียงไร  หากเราจะบอกว่า  เมื่อธรรมหายไป  ภาษาธรรมจึงไม่มี  ก็พบอิสระความจริง  ที่รู้  ที่มี  แต่กลับไม่มี  ไม่รู้  ที่ต้องอธิบายใดๆ  ก็แค่นี้  แต่คำสอนที่เชื่ออย่างไร้เหตุ  และผล จนเกิดเรื่องราวมากมายเป็นปรากฏการณ์ที่จดจำเอาไว้  ความเชื่อที่ยึดมั่นกับคำสอนจนยึดติดผูกรัดตนเองเอาไว้  มันจะโยงใยให้ท่านหลงติดอยู่กับโลกของสมมุติภาษาที่มี  จนเกิดเป็นภาษาธรรม  ที่ปรุงแต่งต่อ  โดยเฉพาะคำว่า "จิต"  ที่ทุกคนเชื่อเอาเองจนหลงใหล  ก็ยังเป็นภาษาธรรม  สิ่งรู้กลายเป็นสิ่งมี  ที่มีขึ้นใหม่  การปรุงแต่งสมมุติก็มีตามมา  สิ่งรู้ที่ปรากฏเกิดขึ้นจึงอธิบายต่อ  ว่ารู้ทางตา  หู  จมูก  ลิ้น  กาย  ใจ  คำว่า  จิตรู้จิตเห็น  จึงผูกรัดท่านให้ปรุงแต่งในคำสอน  ที่ฝันรากลึกกับภาษาทันที  แล้วท่านจะพบอิสระความจริงได้จากอะไร


...โชคดี...%

ไม่มี้...ไม่มีธรรมจริงๆ   อย่าเพิ่งเชื่ออะไรในสิ่งที่เห็น  และสิ่งที่กำลังจะได้ยินต่อจากนี้  เมื่อธรรมไม่มี  แล้วใครจะเข้าถึงธรรมได้อย่างไร  ก็คงจะแปลกใจดี  เมื่อธรรมหายไปจริงๆ  ความมัวเมา  หมกมุ่น  หลงใหล  พร่ำเพ้อถึงธรรมจะได้จบลง  ชีวิต  และความรู้สึกที่ได้มาอาศัยรูปทรงทั้งหลายจะได้พบความจริง  แบบของใครของมันกันเสียที  ความจริงในสภาพที่มีอยู่ตรงหน้าที่ต้องเผชิญอยู่ทุกขณะนั้น  มีเพียงเธอเท่านั้น  ที่รู้ได้เฉพาะตน  เมื่อเธอได้เผชิญกับสิ่งที่มีตรงหน้า  จนเธอสามารถเข้าใจได้เองในสิ่งที่มี  ที่เห็นได้ว่า  สิ่งๆนั้นล้วนผันแปร  หมุนวน  ผ่านมา  และเปลี่ยนไป  ไม่มีอะไรที่เธอจะครอบครองได้  ทุกสรรพสิ่งล้วนได้เพียงพึ่งพาอาศัยแค่นั้น  ธรรม  หรือธรรมะจึงไม่มี  เพราะไม่มี  ไม่มีธรรมะอะไรให้สอน  ไม่มีภาษาจะสอนกันได้จริงๆกับธรรม  ลองมาฟังประสบการณ์จริงของนักเดินทางที่ต้องการค้นหาตนเอง  ที่พวกเขาพร้อมที่จะเดินตามในสิ่งที่เราได้ชี้  และสะกิดให้ดู  จนเดินทางพบอิสระในธรรมในแบบฉบับของเขา


...โชคดี...%


ทำเป้าหมายของมึงให้สำเร็จ   อย่าท้อ  อย่าถอยหนีกับความจริงตนเอง  เธอหนีสิ่งที่เป็นเธอไปไม่ได้  จงค้นหาแนวทางที่เป็นเธอต่อไป  ทำภาระหน้าที่ให้สำเร็จบรรลุเป้าหมายด้วยตนเอง  ไม่มีใครช่วยเธอได้แท้จริง  สัจธรรมเป็นอย่างนั้น  เราได้เพียงแค่มาชี้  และสะกิด  ให้พวกเธอได้เห็นความจริงแบบของใครของมันเท่านั้น  ทุกๆคนจะต้องเดินทางตามลำพังด้วยกำลังตนเองเพื่อบรรลุเป้าหมายคือ  "หมดทุกข์"  สิ้นสงสัยเรื่องราวตนเองลง  พวกมึงจึงต้องค้นหาเป้าหมายของพวกมึง  แล้วทำให้มันสำเร็จลุล่วงลงให้ได้ในชาตินี้  อย่าบ่น  อย่าพร่ำเพ้อ  อย่าหลงโลก  อย่าหลงคำผู้อื่น  จงอดทน  หมั่นเพียร  มั่นคง  รอโอกาส  มีความหวัง  แล้วมึงทั้งหลายจะพบความสำเร็จ  บรรลุเป้าหมายที่มึงตั้งใจได้เอง  พวกมึงอย่าลืมทางตนเอง  จำเอาไว้ให้ดี


...โชคดี...%

ทางสายกลาง   เธอได้เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า  คำที่ว่า  ทางสายกลาง  ที่เธอเคยเข้าใจมาตลอดนั้น  มันคือสิ่งที่พวกเธอได้ท่องจำมา  เธอได้เห็นความรู้สึกแท้จริงของเธอได้เองหรือยัง  หากยัง  แต่กลับหลงใหลไปกับภาษา  ที่ท่องจำเอามา  ชาตินี้เธอคงมองเห็นธรรมตนเองไม่เจอแน่  เพราะโดนกลลวงของภาษาที่มีผู้ปรุงแต่งไว้ให้  เธอจะพอ  และหยุดได้หรือยัง  กับความหลง  เธอพร้อมจะย้อนกลับมาดูความจริงในธรรมตนเองได้หรือยัง  กล้าๆกันหน่อย  พวกเธอทั้งหลาย  หากยังขาดความกล้า  ยังขี้เกียจอยู่  ก็คงไม่มีใครช่วยกันได้  ทางใครทางมันก็แล้วกันครับ


...โชคดี...%

เอาบุญมาฝาก   ลองมาทำความเข้าใจกันจริงๆจังๆ  กันเสียที  ความตั้งใจมุ่งมั่นของพวกเธอในแบบฉบับตนเองเท่านั้น  ที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จได้ด้วยตนเอง  "ได้อะไรหรือครับ  ท่านผู้รู้ ?"  ...ก็พวกเธออยากได้อะไรล่ะ  โลกของเมืองไทยในทุกวันนี้  มีอะไรแปลกๆให้เห็นกันอยู่เนืองๆ  มิได้ขาด  ทำอะไร  ให้อะไร  ก็หวังผลประโยชน์ตนเองเอาไว้ล่วงหน้าทุกครั้ง  กับคำว่า  บุญ  เอาบุญมาล่อมิใช่หรือ  พวกเธอได้สำเร็จกับบุญสมดั่งใจกับหรือยังล่ะครับ  บุญที่คาดหวัง  บุญที่ปรุงแต่งหลอกตนเองเอาไว้  หากว่ายัง  หรือไม่ประสบความสำเร็จเลย  ลองมารับฟัง  "เอาบุญมาฝาก"  ลองเปิดใจสิจ๊ะพวกเธอ  และทำใจยอมรับความจริงของเธอที่ต้องเผชิญให้ได้ก็พอ


...โชคดี...%

Ep319. พ้นทุกข์หมดทุกข์ ยังสร้างทุกข์ทำไม (24nov'66)

พ้นทุกข์หมดทุกข์ ยังสร้างทุกข์ทำไม   ใครที่สนใจพร้อมที่จะพ้นทุกข์หมดทุกข์ลงเองบ้าง  จะมีคนสักเท่าไรที่พร้อมที่มีความปรารถนา  มีความต้องการที่จะค้นพบกับสิ่งนี้ด้วยตนเอง  การพ้นทุกข์หมดทุกข์ลงได้ในชาตินี้  มีผู้บรรยายคนหนึ่งที่ได้ค้นพบกับสิ่งนี้ได้แล้วด้วยตนเอง  พบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายคือจบ  ความสำเร็จที่ได้ไปถึงนั้น  เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความเชื่อ  ใครจะเชื่อว่าสิ่งที่พบประสบเจอนั้นมันง่าย  ง่ายมากๆ  ง่ายจนแทบไม่เชื่อเลย  เพราะความง่ายยิ่งอธิบายเท่าไรก็ไม่ใช่สิ่งๆนั้น  ความง่ายจึงกลายเป็นยากมาก  ด้วยเหตุฉะนี้  ยิ่งอธิบายก็ยิ่งจะสร้างสิ่งที่ไม่มี  ให้มีขึ้นใหม่  เป็นการสร้างทุกข์ให้กับผู้อื่น  หรือคนฟัง  ยิ่งพวกที่ยังไม่สำเร็จบรรลุเป้าหมายได้ด้วยตนเอง  คนพวกนี้มีจำนานมาก  ที่ลวงให้คนหลงติดอยู่ในทุกข์  แล้วจะมีใครที่พ้นทุกข์ลงได้เอง  ทุกข์ที่ผูกรัด  เท่ากับเพิ่มทุกข์ให้คนฟัง  ทุกวันนี้มีใครที่พ้นทุกข์หมดทุกข์ลงเองได้จริงๆ  มีแต่อวดอ้างอุปาทานเอาเอง  จริงหรือไม่จริง  ก็มีให้เห็นกันอยู่ทุกวัน  กับอุปาทานว่าพ้นทุกข์หมดทุกข์ตนเอง


...โชคดี...%

อยากจะเข้าใจธรรม  ความเข้าใจธรรมเลยผ่าน   ลองรับฟังการชี้  และสะกิดให้ดูกับเรื่องราว  "อยากจะเข้าใจธรรม" หมายถึงใคร  "ความเข้าใจธรรมเลยผ่าน"  คืออะไร  สมมุตินะครับสมมุติว่า...วันนี้  คือปัจจุบันของเธอที่อยากจะเข้าใจธรรม  สมมุติต่อมานะครับว่า...วันพรุ่งนี้  คืออนาคตของเธอ  ที่ความเข้าใจธรรมเลยผ่าน  อุปมาเสมือนว่าพรุ่งนี้ที่สมมุติว่าเป็นอนาคตของเธอนั้น  อนาคตของเธอได้เปลี่ยนไป  ความเข้าใจธรรมของเธอเลยผ่านไป  ธรรมในความรู้สึกได้หายไป  ความอยากจะเข้าใจธรรมก็หายไป  มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ได้  และเห็นได้เอง  จนเลิกยึดมั่นถือมั่นผูกรัดกับธรรม  หรือภาษาธรรมที่ไม่เคยมี  เธอเห็นได้เองแล้วกับสิ่งปรุงแต่งของผู้อื่นที่ผูกรัดใจตนเองมาตลอด  วันพรุ่งนี้ที่เธอรอคอยได้มาถึง  กลายเป็นปัจจุบันตนเองขึ้นแล้ว  เสมือนว่าความเข้าใจธรรมเลยผ่าน  ไม่สามารถจะอธิบายใดๆกับธรรมได้อีกแล้ว  ลองมาฟังเรื่องเล่าของสมมุติที่ใช้ภาษามาปรุงแต่งตรงนี้กันดู  ค่อยๆทำความเข้าใจกับเรื่องราวตนเองมาเรื่อยๆ


...โชคดี...%

รู้เหมือนไม่รู้  มีเหมือนไม่มีคือ%   ท่านผู้เจริญท่านทั้งหลายอย่าเพิ่งด่วนสรุปอะไรกันเลย  ค่อยๆทำความเข้าใจตามๆกันมา  ในสิ่งที่จะชี้  และสะกิดให้ดูกับหัวข้อที่ว่า  รู้เหมือนไม่รู้  มีเหมือนไม่มีคือ%  ท่านผู้รู้ทั้งหลายที่ได้ร่ำเรียนกับรู้มีกันมาก  โดยเฉพาะผู้รู้  ที่รู้ธรรมมีกันอยู่มากมาย  แต่ถ้าไม่รู้  ไม่มีนั้น  คงมีเพียงผู้บรรยายเพียงลำพัง  การเห็นคนละด้านระหว่างท่านผู้รู้  ผู้มี  และผู้ไม่รู้  ไม่มี  คือผู้บรรยาย  ใครเห็นได้ก็มี%  การใช้ภาษามาปรุงแต่งที่ชี้ให้ดูนั้น  จึงมีความซับซ้อน  ที่ทุกคนต้องตั้งใจฟังกันให้มาก  เพราะภาษาที่ไม่มี  ไม่รู้นั้น  ปรุงแต่งไม่ได้  นี่คือสิ่งที่ยาก  ยากที่สุดที่ทุกคนจะต้องเก็บเกี่ยวทำความเข้าใจกับสภาพธรรมชาติตนเองให้มากขึ้น  และถี่ขึ้น  เมื่อเธอเดินตามมาจนเข้าใจเรื่องราวตรงนี้ได้แท้จริง  เธอจะเห็นได้เองว่า  ไม่รู้ก็ไม่มี  ไม่มีก็ไม่รู้  ปรุงแต่งไม่ได้  เห็นเองได้ว่าเรื่องราวทุกอย่างที่มี  ที่รู้  ไม่ได้หมดไปไหน  มีเพียงเธอเท่านั้นที่หมดเรื่องราวลงเอง  ความสำเร็จตรงนี้  จึงเป็นสิ่งที่ใครจะคาดเดาเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้  จงอดทน  เพียรพยายามให้มากขึ้นเรื่อยๆ


...โชคดี...%

หมดทุกข์ง่ายนิดเดียว   ใครที่ยังมีทุกข์อยู่  ใครที่ทุกข์ไม่ยอมหมดลง  ใครที่อยากจะพ้นออกจากทุกข์บ้าง  "หมดทุกข์นั้นง่ายนิดเดียว"  ใครจะเชื่อ  พวกเธอพร้อมที่จะเดินตามมาดูความจริงของเธอกันเองหรือยัง  ความจริงที่เธอต้องเผชิญ  ความจริงที่เธอต้องเข้ามาพิสูจน์  กับตำราความเชื่อที่มีกล่าวไว้ลอยๆว่า  "ธรรมจะเป็นตัวแทนศาสดาสืบไป"  ธรรมนั้นคือสิ่งใดที่ศาสดาบอกเอาไว้เช่นนั้น  มีใครที่พร้อม  มีใครที่มีความกล้าหาญเพียงพอบ้าง  ลองมารับฟังสิ่งที่จะชี้  และสะกิดให้ดู  หมดทุกข์คือเรื่องราวอะไร  ทำไมง่ายเช่นนี้  อุปมาเปรียบเสมือนกับว่า  ทุกข์ก็คือทุกสรรพสิ่งที่ผันแปร  เมื่อผันแปรจึงไม่เที่ยง  จึงไม่มีใครเป็นเจ้าของทุกข์ได้  ทุกข์จึงหมดลงเอง  มีแค่นี้เอง  ลองย้อนกลับไปฟัง

Ep293. สิ่งไม่เที่ยงที่ผันแปร  

Ep294.ทุกข์ที่มีเธอ

เมื่อเธอเข้าใจได้เองแล้ว  คำที่สมมุติว่า  นรก  สวรรค์  นิพพานจึงหมดลง  เธอไม่ต้องกังวล  ไม่ต้องสงสัยใดๆอีกแล้ว  ว่าตายแล้วจะได้ไปไหน  คงไม่มีที่ให้เธอได้ไป  เพราะทุกข์ที่มีเธอ  ได้หมดลงแล้ว


...โชคดี...%

นิพพาน เรื่องราวที่หมดลง  พวกเธอเดินตามมาดูสภาพธรรมชาติตนเอง   กับความเชื่อของคำว่า "นิพพาน"  ภาษาแบบนี้เป็นสิ่งที่มีอยู่ในใจของทุกคน  ที่ต้องการพ้นทุกข์  พวกเธอทุกคนได้พบนิพพานกันแล้วหรือยัง  ใครได้พบแล้วบ้างก็ช่วยแสดงความคิดเห็นออกมาด้วย  ส่วนนิพพานของผู้บรรยายนั้น  เพียงได้แค่ชี้  และสะกิดให้ดูเท่านั้น  พวกเธอบางคนที่ยังไปไม่ถึงนิพพานก็จงตั้งใจรับฟังกันให้มากๆด้วย  นิพพานแบบโลกนั้นมีเรื่องราวที่ไม่หมดลง  สำหรับนิพพานของผู้บรรยายนั้น  คือเรื่องราวที่หมดลง  มันยาก...ยากมาก  ที่จะอธิบาย  จึงจำเป็นต้องแต่งเป็นนิทาน  เพื่อให้เธอได้ดูสภาพธรรมตนเอง  ส่วนที่หนึ่งของเธอ  ที่อุปมาเหมือนคนนั่งตกปลา  ส่วนที่สองของเธอ คือตอนที่ยังเป็นเด็ก  มีความซุกซน  สงสัย  เฝ้ามองดูคนตกปลา  ส่วนที่สาม  คือความรู้สึกเธอ  ที่กำลังนั่งฟังผู้บรรยายอยู่ในขณะนี้  ความจริงในสภาพทั้งสามตรงนี้  ที่เธอต้องตั้งใจฟังอย่างมากจริงๆ  ถึงจะเข้าใจ  ว่านิพพานเรื่องราวที่หมดลงเป็นเช่นนี้จบสิ้นสมบูรณ์


...โชคดี...%

นิพพานที่หายไป  คนส่วนมากที่เข้าใจคำว่านิพพานนั้นมีอยู่ไม่น้อย  ความหมายของนิพพานที่คนเข้าใจเอาไว้นั้น  จึงมีเรื่องราวที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน  นิพพานจึงเป็นสิ่งมีของโลก  เป็นสมมุติภาษา  ที่มีค่า  มีราคา  ที่ใครๆต่างก็ยึดมั่นหลงใหล  ผูกรัดเหนี่ยวรั้งเอาไว้กับใจตนเอง  "นิพพานของเธอแบบโลกจึงไม่หมดลง"  ตราบใดถ้าเธอยังยอมให้ผู้อื่นเขาครอบงำ  ยังเชื่อเขาอยู่  ยังไม่ยอมที่จะค้นหาความจริงด้วยตนเอง  ก็ยากที่จะทำให้เรื่องราวนิพพานนั้นหายไป  นิพพานหายไปคือความจริงของเธอ  ความจริงที่ยังมาไม่ถึงในตอนนี้  ที่เธอจะต้องอดทน  พากเพียรพยายามต่อไป  ฉะนั้นพวกเธอทุกคนโปรดวางนิพพานที่เคยเชื่อเอาไว้ก่อน  ย้อนกลับไปฟัง

Ep304.   มึงค้นหาตนเองให้เจอก็หมดทุกข์ 

Ep305.   ธรรมคือวงเวียนชีวิตเธอ

และ  Ep 314.  เมื่อธรรมหายไปจึงพบอิสระ

ความสำเร็จเพื่อการหลุดพ้นบรรลุเป้าหมายในธรรมที่พวกเธอรอคอย  จะสำเร็จได้ในชาตินี้


...โชคดี...%

สิ่งที่มีไม่เคยหมด  ปีพ.ศ. 2566 ใกล้หมดลงแล้ว  สำหรับความขัดแย้งที่ยังไม่หมดลง  มีให้เห็นกันอยู่ทุกวัน  ชีวิตที่ยังแย่งชิงแข่งขันเอาเปรียบกัน  ยังดำเนินต่อไปไม่มีหมดลง  ความเชื่อคือปัจจัยสำคัญ  ทำให้คนหลงใหลกับสิ่งปรุงแต่ง  เย้ายวนอารมณ์  ทำให้ลืมความจริงที่ผันแปร  จึงเบียดเบียนเอาเปรียบกันเองด้วยความอยาก  ที่ยังอยากจะได้  อยากจะมี  อยากจะเป็น  ความอยากจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ยอมให้หมดลง  ความอยากจึงเป็นเหตุตัวใหม่ตามมาที่ทำให้ความรู้สึกคนเต็มไปด้วยทุกข์ที่มีอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา  ทุกข์จึงเป็นผลตัวใหม่  ที่ถูกโยงใยมาสู่การดับทุกข์ เชื่อมโยงมาสู่ศาสนาพุทธของเรา ทุกข์จึงเป็นเหตุตัวใหม่ ธรรมจึงเป็นผลปรุงแต่งตามมา  เกิดเป็นธรรม  หรือธรรมะของกูขึ้นใหม่  ที่คนชอบบอกกันเองว่า  จะช่วยขัดเกลาชีวิตให้หมดทุกข์พ้นทุกข์ได้  ธรรมจึงเป็นเหตุตัวใหม่  เกิดเป็น  ธรรมะของกูขึ้นมา  แก่งแย่งแข่งขันกันขึ้นอีก  ธรรมที่เคยเป็นธรรมชาติเดิมแท้  ธรรมจะเป็นตัวแทนศาสดาสืบไป  จึงหายไป  เหลือแต่ธรรมะของกูขึ้นมาแทน  ที่นำอวดกัน  โชว์กัน  ทะเลาะกัน  ธรรมะของกูจึงเป็นสิ่งที่มีไม่เคยหมด  พวกเธอเห็นได้กันจริงๆหรือยังท่านผู้เจริญ


...โชคดี...%

สิ่งที่หมดไม่เกี่ยวกับสิ่งที่มี   เรื่องเล่านิทานที่นำภาษามาปรุงแต่งของชายเดินดิน  กินนอนใต้ต้นไม้  ผู้มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นลูกกษัตริย์  ซึ่งวันข้างหน้าก็จะได้ปกครองบ้านเมืองแทนพ่อ  แต่ชายผู้นี้กลับเบื่อหน่ายในสิ่งที่มีอยู่  เกิดสงสัยกับโชคชะตาชีวิตตนเอง  ที่มีเพียบพร้อมสมบูรณ์ทุกอย่าง  แต่ทำไม...  ทำไมชีวิตของตนนั้นยังมีทุกข์อยู่  ทุกข์ที่เห็นการเกิด  ทุกข์ที่เห็นความแก่  ทุกข์ที่เห็นความเจ็บ  ทุกข์ที่เห็นความตาย  ความสงสัยอยู่ในใจที่มีนั้น  จึงเกิดความอยาก  อยากจะค้นหาหนทางดับทุกข์ตรงนี้ลง  จึงยอมสละทุกอย่างที่มีโยนทิ้งไป  ออกเดินทางตามลำพัง  ค้นหาความจริงที่เขาสงสัย  สิ่งที่หมดไม่เกี่ยวกับสิ่งที่มี  ที่ผู้บรรยายจะชี้ให้ดูในความยิ่งใหญ่ของชายคนนี้  ก่อนที่เขาจะได้เป็นศาสดาเอก  เขาได้สละทุกสิ่งทุกอย่างลง  กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่  เผชิญอยู่กับสิ่งที่ไม่มี  สิ่งที่ไม่รู้  แต่เขาในตอนนั้นยังเห็นรอบความรู้สึกตนเองไม่ทัน  ว่าไม่มี  ไม่รู้  เรื่องราวดับลงแล้วหมดลงเอง  ความหลงที่ยังเล่นกับสิ่งที่มีอยู่  จึงทรมานกับสิ่งที่มีอยู่ถึง 5 ปี  ลองฟังดู  สิ่งที่หมดไม่เกี่ยวกับสิ่งที่มี  มันน่าแปลกใจจริงๆ


...โชคดี...%

จงเดินให้สุดเส้นทาง (ทำภพชาติให้หมดลง)   พวกเธออย่าลืมทางของตนเอง  สิ่งที่ผู้บรรยายคอยย้ำเตือนพวกเธออยู่เสมอคือ  จงมีศรัทธากับตนเอง  ใช้ศรัทธาของเธอค้นหาความจริงในเส้นทางตนเอง  มีสัจจะที่มั่นคง  อย่าหลงใหลไปกับอุบายใดๆด้วยความประมาท  จงจำเอาไว้ให้ดี  ใช้เส้นทางที่เป็นเธอ  ค่อยๆทำความเข้าใจในรอบความรู้สึกของตนเองตามมาเรื่อยๆ  ความรู้ที่กว้างที่เคยรู้  รู้นั้นจะค่อยๆแคบลงเอง  เพราะรู้เปรียบเสมือนความหยาบกระด้าง  เกิดจากการเรียนรู้ท่องจำ  สิ่งที่เธอเคยรู้จะถูกขัดเกลาลงลบลง  "รู้"  แบบเดิมๆของเธอ  ก็เสมือนท่อนหวายที่ได้ตัดมาสดใหม่  ต้องนำมาลอก  รูดเอาเสี้ยนหนาม  และสิ่งสกปรกของพื้นผิวออกไปเรื่อยๆ  จนเหลือเพียงเยื่อบางๆของเนื้อหวายที่บริสุทธิ์  ความบริสุทธิ์ภายในความรู้สึก  ก็เสมือนหมดรู้  ตรัสรู้  เยื่อที่บางนั้นก็อุปมาเสมือนว่า  ได้วางรู้ที่เคยเรียนรู้เอาไว้ที่เดิมแล้ว  การเดินทางของเธอได้เดินมาสุดเส้นทางแล้ว  ที่เสมือนได้ตรัสรู้  ทิ้งรู้  ลงไว้ตามเดิม  ภพชาติหมดลง  พวกเธอจงเดินให้ถูกเส้นทาง  เดินให้สุดเส้นทางให้ได้ก็พอ


...โชคดี...%

กิเลสที่มีแล้วดับไม่ได้ (เราคือผู้อาศัย)   อะไรที่เกิดมีขึ้นในขณะความรู้สึก  เธอจะต้องไตร่ตรองให้มาก  ให้แยบคาย  เพราะสิ่งที่มีที่รู้นั้น  จะมีเรื่องราวของชีวิตที่เป็นเธอตามมา  ชีวิตชีวิตหนึ่งจึงเกิดเรื่องราวแบบของใครของมันที่ต้องดำเนินต่อไปกับสิ่งที่มีที่รู้ของตนเอง  สิ่งมีสิ่งรู้คือสิ่งปรุงแต่งต่อมาของเธอ  ที่นำมาสู่ความคิด  ความคิดจึงเป็นสิ่งมีสิ่งรู้ตัวใหม่   ที่เกิดขึ้นมาเป็นตัวเธอเข้าแล้ว  เมื่อมีตัวเธอก็จะมีตัวตนเธอเข้าไปรองรับกับเรื่องราว  สิ่งมีสิ่งรู้จึงตามมาต่อเนื่องไม่มีจบสิ้น  ความคิดที่คิดได้เร็วนำเธอมาสู่เรื่องโลกที่เธอเคยเรียนรู้จดจำ  รู้ของโลกจึงเกิดเป็นกิเลสของเธอที่มีขึ้นแล้ว  ดับลงไม่ได้  พวกเธอเข้าใจต้นเหตุสภาพความจริงของตนเองได้เพียงไร  เหตุแห่งทุกข์ไม่เคยมีทุกข์  ทุกข์ที่มีนั้นเราคือผู้อาศัย  เธอดับทุกข์อะไรลงไม่ได้  ยิ่งจะดับก็เหมือนยิ่งเติมเชื้อไฟให้เผาลนตนเอง  จงอย่าลืมทางตนเอง  เธอคือผู้อาศัยทุกสรรพสิ่ง  เธอเป็นอิสระอยู่แล้วอย่าลืม


...โชคดี...%

คิดจะดับทุกข์ดับกิเลส (ทันความคิดที่อยากจะดับหรือยัง)   ช่วงเวลาของชีวิตที่สั้นนัก  พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่กับช่วงเวลาที่เหลือเพียงน้อยนี้  ชีวิตเธอมีทางเลือกที่เธอต้องเผชิญอยู่สองทาง  ทางแรกคือการเกิด  และทางที่สองคือเธอต้องค้นหาทางตนเองให้เจอ  มีเพียงเท่านี้กับชีวิตทุกชีวิต  แต่ทุกครั้งที่ได้เกิดใหม่  ก็จะต้องเริ่มต้นใหม่  เพราะไม่รู้ว่าเกิดมาจะได้ไปอาศัยในรูปทรงอะไร  การเกิดจึงเป็นสิ่งที่น่ากลัว  สมมุตินะครับสมมุติว่า  ตอนนี้เธอได้เกิดเป็นคน  คนที่มีเพียบพร้อมทุกอย่าง  สิ่งที่มีนั้นย่อมผันแปร  สิ่งที่ผันแปรต่อมาคือทุกข์ที่มี  เมื่อมีทุกข์ก็ต้องการดับทุกข์  การดับทุกข์จึงเกิดเป็นกิเลสที่ซ้อนขึ้นมาใหม่  กิเลสคือความอยาก  ความอยากจึงเกิดเป็นทุกข์ตัวใหม่ที่เธอกำลังคิด  ความคิดจะดับทุกข์ดับกิเลส  เธอเห็นได้ทันหรือยังกับความคิดที่เธอปรุงแต่งขึ้นใหม่  ที่อยากจะดับทุกข์ในใจตนเอง  จนหมุนเป็นวงกลม  วนมาสู่กิเลสที่เดิม  และกิเลสนั้นก็เป็นสิ่งที่เธอคิดเอาเองขึ้นอีก  สุดท้ายชีวิตเธอก็ยังค้นหาทางตนเองไม่เจอ  หลงอยู่กับวังวนความคิดที่จะดับทุกข์ดับกิเลสที่ตนเองสร้างขึ้นมา


...โชคดี...%

แก่นของพุทธศาสน์คือไม่เกิด (ไปถึงได้ด้วยความเข้าใจเท่านั้นจริงๆ)   การชี้บอกทางลัดสั้นตัดตรง  ที่ครูของผู้บรรยายคอยเตือนอยู่เสมอว่า  "อย่าหลงทาง"  แม้ว่าผู้บรรยายจะได้เข้าใจธรรมแล้วก็ตาม  แต่การให้ธรรม  ที่ให้เป็นธรรมทานนั้นก็มีความสำคัญ  เพราะควรให้ความจริง  ความจริงที่ลี้ลับซับซ้อน  การให้ธรรมจึงต้องให้จากใจด้วยคุณธรรมที่ตนเองได้เข้าใจ  ได้ประจักษ์แจ้ง  จนแตกฉานในแก่นธรรมของพุทธศาสน์ คือ  "ไม่เกิด"  ไปถึงได้ด้วยความเข้าใจเท่านั้น  ตามที่ครูของเราได้ชี้บอกทางให้  ครูเป็นคนเก่งที่พูดน้อย  คอยเตือนผู้บรรยายอยู่เสมอ  ผู้บรรยายขอกราบเคารพในคุณธรรมของครู  ผู้เป็นผู้ให้อย่างแท้จริงตลอดมา  แก่นของพุทธศาสน์คือ  "ไม่เกิด"  เราจึงนำมาชี้เพื่อบอกทางต่อให้ทุกคนได้ดวงตาเห็นธรรมด้วยตนเอง  จนเกิดความเข้าใจในแบบของใครของมันสืบไป  การเกิดเป็นสิ่งที่น่ากลัวนะ  การไม่เกิดคือธรรมที่พวกเธอต้องค้นหา  เพราะมีอยู่ในธรรมชาติของพวกเธออยู่แล้ว


...โชคดี...%

อะไรคือแก่นธรรม   แก่นแท้  หรือแก่นธรรมของตนเองที่ต้องค้นหา  ลองเดินตามมาดูความจริง  ความจริงของธรรมเป็นสิ่งที่มีอยู่แค่รู้สึกได้เท่านั้น  ธรรมจึงเป็นสิ่งที่มีอยู่แต่ไม่มีเรื่องราว  เรื่องราวที่มีอยู่นั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงในขณะหนึ่งเท่านั้น  เป็ฯธรรมชาติเดิมๆที่หมุนวนผันแปรมีอิสระร่วมกัน  พึ่งพาอาศัยกัน  ไม่มีใครเป็นเจ้าของกับธรรมคำนี้  ธรรมจึงเป็นสิ่งที่มีอยู่ลอยๆ  มีอิสระ  ไม่มีรูป  ไม่มีนาม  ไม่มีความหมายที่ต้องอธิบาย  จึงไม่ใช่สิ่งที่คนต้องจดจำ  ธรรมเป็นเพียงความรู้สึกของใครของมันที่รู้ได้เฉพาะตน  อาศัยพึ่งพากัน  ภาษาสมมุติว่า  "ธรรม"  จึงไม่มีเรื่องราว  การเดินทางเข้ามาดู  มารู้  มาเข้าใจกับธรรมคำนี้  ที่เป็นเพียงคำกล่าวลอยๆ  จึงต้องใช้ความรู้สึกของใครของมัน  เพื่อเดินทางเข้ามาเป็นผู้รู้เอง  เห็นได้เอง  เข้าใจเอง  ประจักษ์แจ้งเองในความรู้สึกภายในของตนเองเท่านั้นจนแตกฉาน  ได้พบความจริง  กับธรรมคำนี้ด้วยตนเอง  หมดสงสัยแล้วว่า  "อะไรคือแก่นธรรม"


...โชคดี...%

บ้านธรรมของพุทธะ  คือสิ่งสมมุติตามภาษานำมาปรุงแต่งให้มีขึ้น  อย่าเชื่อกับการปรุงแต่งนะครับ  การชี้ให้ดู  สำหรับปุถุชนคนมีกิเลสทั้งหลาย  ที่ต้องการจะเดินทางกลับบ้านด้วยตนเอง  จึงต้องสร้างบ้านด้วยกำลังใจตนเองให้สำเร็จ  เพราะบ้านคือที่อยู่อาศัยของธรรม  ธรรมคือความรู้สึกของเธอ  พุทธะคือผู้รู้  ต้องวางรู้  ปล่อยรู้ให้ดำเนินไปตามสภาพความจริง  ไม่ไปยึดมั่นถือมั่นกับรู้  จึงหมดรู้  "บ้านธรรมของพุทธะ" จึงเป็นบ้านของเธอ  เธอคือปุถุชนคนมีกิเลส  จึงต้องใช้กิเลสของเธอให้ถูก  ให้ตรง  ใช้ให้มันเป็น  ใช้กิเลสคือความอยากนำมาสร้างบ้าน  เพราะบ้านที่จะต้องสร้างจากความรู้สึกภายในของเธอ  ที่เธอก็ไม่รู้  ไม่มีรูปแบบในการสร้าง  การสร้างแบบไม่มี  ไม่รู้  จึงเป็นสิ่งท้าทายของปุถุชนทุกคนที่จะต้องเริ่มต้นด้วยตนเอง  มันจะยากในตอนเริ่มต้นที่ต้องใช้ความอดทน  ขยันหมั่นเพียรด้วยการฟัง  ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้น  มีเพียงเธอเท่านั้น  ที่จะตอบคำถามกับตนเองได้


...โชคดี...%

นิพพานที่มืดมน   ชีวิตเมื่อเกิดขึ้นแล้วจึงเลือกไม่ได้  วิธีการใช้ชีวิตของเธอต่างหาก  ที่เธอเลือกได้  สังคมโลก  และสังคมธรรมทุกวันนี้มันเสื่อมลง  เกิดความแตกแยกแข่งขันเพื่อผลประโยชน์  ความร่ำรวย  การใช้ชีวิตของคนในยุคนี้  จึงยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ  เหมือนได้ถูกครอบงำชักจูงให้หลงเชื่อ  หลงยึด  หลงติด  หลงใหลไปเสียทุกเรื่อง  คำโฆษณาชวนเชื่อที่ว่า  นิพพานที่ใครอยากได้  ความหลุดพ้นที่ใครอยากหลุดพ้น  จึงเกิดความสนใจในคำเชิญชวน  เมื่ออยากจะได้อะไรง่ายๆ  ก็ต้องจ่ายต้องแลกซื้อในราคาที่เขาเสนอ  เสมือนว่ามีผู้รู้ผู้มีปัญญามาการันตีให้  ชักจูงครอบงำ  จนเธอเกิดความอยาก  ยินดีพอใจ  ความรู้สึกที่เป็นเธอจึงเปลี่ยนวิถีทางตนเองออกไป  หลงเชื่อที่เขาชักจูงไป  "นิพพาน  การหลุดพ้น"  จึงเป็นเครื่องล่อใจที่ดีสำหรับคนที่ชอบคำว่า  นิพพาน  การหลุดพ้น  จึงเปิดขายกันมาก  เห็นได้ทันเขาหรือยังในสิ่งปรุงแต่งที่โดนเขาหลอก  ที่เขาเอาเปรียบตลอดมา  แล้วคนจะต่างอะไรจากสัตว์  ที่ชอบให้เขาสนตะพาย  "นิพพานที่มืดมน"


...โชคดี...%