วีดิโอธรรม

ตายิ้มใจยิ้มเพราะเข้าใจธรรม   ศาสดาผู้หมดกิเลส  ได้วางเหตุ  ทุกข์จึงหมดลง  ผลแห่งทุกข์จึงไม่มี  เรื่องราวก็หายไป  มีเพียงความรู้สึกกับธรรมที่เบิกบาน  ตายิ้มใจยิ้ม  เพราะเข้าใจธรรม  ธรรมคือความจริงที่ต้องอาศัยสภาพที่มีที่รู้  สิ่งที่มีสิ่งที่รู้  ก็ต้องอาศัยสมมุติภาษาเพื่อนำมาอธิบาย  ตำราที่มีอยู่ในตอนนี้  ก็มีเขียนเอาไว้ในหลักความเชื่อ  ที่ศาสดาบอกว่า  "อย่าเชื่อกับอะไร  โดยที่ตนเองยังไม่ได้พิสูจน์"  ความซับซ้อนในเรื่องความจริงของธรรม  ขณะนี้ได้ถูกเชื่อมโยงให้เชื่อตามๆกันมา  ธรรมจึงเป็นเรื่องราวความเชื่อที่มีอยู่เช่นนี้  ท่านผู้เจริญ  ท่านผู้มากปัญญาทั้งหลาย  อย่าหลงเชื่อกับสมมุติภาษาที่ปรุงแต่งตรงนี้  แม้แต่ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังต้องอาศัยพึ่งพาสมมุติในการแสดงธรรม  สมมุติจึงเป็นสมบัติของโลกที่ทุกชีวิตได้พึ่งพาอาศัยเท่านั้น  ไม่มีใครจะทิ้งสมมุติลงได้จริงๆ  ภาษาจึงเป็นต้นเหตุ  ที่ท่านต้องอาศัยเหตุ  เพื่อพิจารณาในผลที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่  ผลก็คือกิเลส  ที่เธอต้องใช้กิเลสให้ถูก  ใช้ให้เป็น  เพื่อวางต้นเหตุ  ทุกข์จึงหมดลง


...โชคดี...%

วิถีทาง วิถีธรรม สู่ความสงบร่มเย็น   เพราะไม่รู้จึงอยากจะรู้  แต่ไม่รู้เห็นเองไม่ได้  จึงต้องออกค้นหาด้วยความอยาก  อยากจะรู้หนทางวิถีทางเพื่อดับทุกข์  ยิ่งอยากก็ยิ่งเพิ่มทุกข์  ศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ผู้หมดทุกข์  ก่อนที่เขาจะได้เป็นศาสดาเอก  เขาเองก็ออกค้นหาทางด้วยตนเองตามลำพัง  หาวิถีทางของตนเองจนได้พบวิถีธรรมนำสู่ความสงบร่มเย็นด้วยตนเอง  ผู้บรรยายเองก็ไม่รู้  จึงต้องแสวงหารู้เพื่อดับทุกข์  รู้เท่าไหร่ก็ไปไม่รอดยิ่งรู้ก็ยิ่งทุกข์  จนครูของผู้บรรยายได้บอกทางให้  "มึงค้นหาตนเองให้เจอ"  ภาษาคนที่พูดง่าย  แต่ฟังแล้วไม่ง่าย  "เพราะไม่รู้"  ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นค้นหาจากอะไร  จึงต้องลองทุกอย่างในการค้นหาทาง เพื่อเข้าสู่ธรรมที่จะนำตนเองออกจากทุกข์พบความสงบร่มเย็น  สิ่งที่ได้พบจึงเป็นสิ่งที่รู้เฉพาะตนเอง  สอนใครไม่ได้  เพียงแค่ชี้  และสะกิดให้ดูเป็นแนวทางเท่านั้น  เพราะความสงบร่มเย็นนั้นมีอยู่คู่กับชีวิตทุกชีวิตอยู่แล้ว  ที่ทุกคนจะต้องเริ่มค้นหาด้วยตนเอง  หาทางให้เจอก็จะพบธรรมนำไปสู่ความสงบร่มเย็นตลอดกาล


...โชคดี...%

อยากสำเร็จธรรม  ต้องหลอกธรรมชาติให้เนียน   เมื่อพวกเธอได้พยายามค้นหาตนเองได้แล้ว  ก็ต้องลองหลอกธรรมชาติให้เนียน  เพื่อเข้าสู่เป้าหมายความสำเร็จด้วยตนเอง  จงจำเอาไว้ว่า  ตนเป็นที่พึ่งของตน  การหลอกธรรมชาติให้เนียนได้นั้น  พวกเธอทุกคนจะต้องใช้วิถีทางวิถีธรรมตนเอง  ความจริงที่เป็นเธอ  ความเข้าใจที่เธอเข้าใจเกิดเป็นรู้ที่รู้เฉพาะตน  รู้เท่าทันต่อสิ่งที่เข้ามากระทบ  จงใช้สิ่งที่เป็นเธอที่เข้าใจธรรมชาติตนเอง  พยายามไตร่ตรองอย่างรอบคอบด้วยความระมัดระวังไม่ประมาท  อย่าหลงรู้ให้เพิ่มขึ้นอีก  เพราะรู้อะไรไม่ใช่เธอ  แม้ในอดีตที่เธอเคยหลงใหลกับรู้  ยึดกับรู้  เชื่อในรู้  รู้มันช่วยเธอไม่ได้  สิ่งรู้คือสิ่งที่มีตามกระแสน้ำ  รู้ที่มีขึ้นแล้วจึงไหลเวียนไม่หมดลง  เมื่อรู้ขึ้นแล้วเธอจึงทำอะไรไม่ได้  เพราะยิ่งทำก็จะยิ่งรู้ยิ่งมีเพิ่ม  นำเธอเข้าไปสู่ความเชื่อแบบเดิม  ความเชื่อจึงเป็นสิ่งที่มีคู่โลก  เปรียบดั่งกระแสน้ำที่ไหลวนมีกำลังมากเธอมีหน้าที่ที่ต้องว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อหลุดออกไปจากสิ่งที่หมุนวน  ปล่อยรู้ที่เชื่อให้ดำเนินไป  รู้อะไรไม่ใช่เธอ  เธอคือผู้ไม่รู้  ก็ง่ายๆแค่นี้เอง


...โชคดี...%